ต้อกระจกเป็นภาวะที่เลนส์ตาขุ่น ทำให้การมองเห็นลดลง เลนส์ตาเป็นอวัยวะที่อยู่ภายในดวงตา ทำหน้าที่หักเหแสงและทำให้มองเห็นภาพชัดเจน เมื่อเลนส์ตาขุ่น แสงที่เข้ามากระทบจะไม่สามารถหักเหได้ตามปกติ ทำให้มองเห็นภาพเบลอ มัว หรือมีแสงรบกวน หากเกิดอาการรุนแรงมากขึ้นควรได้รับการรักษาต้อกระจกได้เร็ว 

สาเหตุของต้อกระจก

• อายุ ต้อกระจกเป็นภาวะที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ
• การได้รับรังสี การได้รับรังสีจากแสงแดด รังสีอัลตราไวโอเลต หรือรังสีคอสมิก อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจก
• การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจก
• การใช้ยาบางชนิด การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาสเตียรอยด์ ยารักษาโรคเบาหวานบางชนิด อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจก
• โรคบางชนิด โรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจก

อาการของต้อกระจก

อาการของต้อกระจกอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล อาการที่พบบ่อย ได้แก่

• มองเห็นภาพเบลอ
• มองเห็นภาพมัว
• มองเห็นแสงรบกวน
• มองเห็นสีไม่สดใส
• ขับรถกลางคืนลำบาก
• ต้องใช้แว่นสายตาบ่อยขึ้น

การรักษาต้อกระจก

ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาต้อกระจกให้หายขาด การรักษาต้อกระจกที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตา การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตาเป็นการผ่าตัดที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูง การผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ในวันเดียวกัน

ขั้นตอนการทำการผ่าตัดต้อกระจก

1. แพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณรอบดวงตา
2. แพทย์จะทำแผลขนาดเล็กที่กระจกตา
3. แพทย์จะดูดเอาเลนส์ตาที่ขุ่นออก
4. แพทย์จะใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทนที่เลนส์ตาที่ขุ่น
5. แพทย์จะปิดแผลด้วยกาวตาหรือไหม

การดูแลหลังการผ่าตัดต้อกระจก

หลังการผ่าตัดต้อกระจก ผู้ป่วยอาจมีอาการระคายเคืองตา น้ำตาไหล หรือมีจุดดำลอยในตา อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 2-3 สัปดาห์ ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยให้แผลหายเร็วและป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน

ข้อดีของการผ่าตัดต้อกระจก

• ช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น
• ช่วยให้มองเห็นสีสันได้สดใสขึ้น
• ช่วยให้ขับรถกลางคืนง่ายขึ้น
• ไม่จำเป็นต้องใช้แว่นสายตาหรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป

ความเสี่ยงของการผ่าตัดต้อกระจก

• การติดเชื้อ
• เลือดออก
• กระจกตาอักเสบ
• ม่านตาอักเสบ
• ความดันลูกตาสูง
• สูญเสียการมองเห็น

ต้อกระจกเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ การรักษาต้อกระจกที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตา การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตาเป็นการผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังการผ่าตัด

คำแนะนำจากคุณหมอชั้นนำ

คุณหมอชั้นนำแนะนำว่า ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปควรตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจหาและรักษาต้อกระจกตั้งแต่เนิ่น ๆ และสามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดต้อกระจก เช่น การสูบุหรี่ การได้รับรังสี และการใช้ยาบางชนิด